รายการ : รักล้นดอย
วันที่ออกอากาศ : เสาร์
เวลาออกอากาศ : 10:00:00 - 11:00:00
คุณภาพ : SD
นักแสดง : แอม พีรวัศ, อ้อม อังคณา, พลอย วราคณา, เอี๊ยม วรรษพร, กล้วย เชิญยิ้ม
รายละเอียด : เมื่อสาวบ้านป่าเข้าเมืองเพื่อตามหาพี่ชาย แต่โชคชะตาดันทาให้เธอต้องพบกับหนุ่มเมืองจอมแสบ เรื่องนี้เลยไม่รู้ว่าสาวบ้านป่ากับหนุ่มเมืองกรุงใครจะแสบแบบพริกกะเหรี่ยงกว่ากัน ที่ชายแดนระหว่างเชียงราย พม่า เสียงผู้คนร้องเอะอะโวยวายจนสัตว์ป่าต่างๆที่อยู่ในป่าใหญ่บนยอดดอยต่างแตกฮือหนีตายกันโกลาหล ไม่ใช่เพราะเกิดสงครามระหว่างไทยพม่าอะไรหรอก แต่เสียงที่เอะอะโวยวายนั่นคือเสียงของ ดาวน้อย...เจ้าหญิงแห่งเผ่าซอเลี๊ยะ กาลังระดมปาอุจจาระเป็ดภูเขาใส่ กษิดิน...ผู้บริหารหนุ่มวัย 27 เจ้าของ บริษัท วันเดอร์แลนด์ อีเวนท์ ออกาไนเซอร์ จากัด บริษัทที่ผลิตสื่อเพื่อความบันเทิง ชื่อบริษัทฟังแล้วอาจจะดูเหมือนเป็นองค์กรใหญ่โต แต่ที่จริงแล้วบริษัทของกษิดินเป็นบริษัทขนาดเล็กมากถึงเล็กที่สุด เพราะมีพนักงานเพียงสองคนคือตัวเขากับ ยอดชาย เท่านั้น ภายใต้สโลแกนที่ดูดีเกินกว่าบริษัทก็คือ ความสุขของคุณ ความสุขของเรา ที่กษิดินมามอบของบริจาคให้กับ งอแซ...หัวหน้าเผ่าซอเลี๊ยะ ชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ระหว่างชายแดนไทยกับพม่า นั่นก็เพราะกษิดินกาลังจะได้รับงานใหญ่ที่ทาให้เขาลืมตาอ้าปาก ด้วยความที่กษิดินอยากได้งานชิ้นนี้มากจึงยอมทาทุกอย่าง แม้กระทั่งคนบอกให้ขึ้นมาไหว้พระธาตุประจาปีเกิด กษิดินก็ต้องมา แถมด้วยความคิดของยอดชายที่บอกให้ทาบุญกับชาวเขาก็น่าจะดี กษิดินก็ไม่ขัด จนกระทั่งเกิดสงครามขึ้นระหว่างดาวน้อยกับเขานั่นเอง นอกจากงอแซจะเป็นหัวหน้าเผ่าแล้วยังเป็นพ่อแท้ๆของดาวน้อยอีกต่างหาก และสาเหตุที่ดาวน้อยกับกษิดินเปิดศึกเหม็นๆใส่กันก็เพราะว่าดาวน้อยดันไปได้ยิน กษิดินพูดกับยอดชายถึงความน่ารังเกียจของชนเผ่าของเธอ นั่นเองจึงทาให้ดาวน้อยผู้ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครแต่จะทนไม่ได้ทันทีเมื่อมีใครมาดูถูกเผ่าของเธอ เพราะมีคากล่าวในเผ่าของเธอว่า ดินคือพ่อ น้าคือแม่ เพื่อนแท้คือพงไพร แม้ว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดีจากการไกล่เกลี่ยของงอแซ แต่ก็ทาให้ทั้งกษิดินและดาวน้อยต่างก็จงเกลียดจงชังกับความเป็นตัวตนของอีกฝ่าย กษิดินรู้สึกขยะแขยงทั้งจากขี้เป็ดที่ดาวน้อยละเลงใส่และความไร้การศึกษาของเธอ ขณะที่ดาวน้อยเองก็ไม่พอใจที่กษิดินมาดูถูกเธอและเผ่าของเธอ ทาไมจะต้องแบ่งชั้นวรรณะในเมื่อทั้งเธอและเขาก็เป็นคนเหมือนกัน จนทาให้ทั้งสองต่างตั้งใจไว้ว่าชาตินี้ขออย่าได้เจอกันอีกเลย ดาวน้อยไม่เข้าใจว่างอแซทาไมถึงได้ปล่อยกษิดินไป ทั้งๆที่กษิดินเองพูดจาดูถูกทุกอย่างที่นี่ งอแซจึงบอกว่าคนอื่นจะพูดยังไงก็ช่างแต่ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดก็ไม่ต้องสนใจ คนในเมืองมักจะคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนบ้านป่าอย่างพวกเรา แต่ที่จริงแล้วพวกนั้นกลับไม่รู้เลยว่าคนที่โดนหลอก คือคนเมืองนั่นเอง ใช่ว่าพวกเขาอยากจะแต่งตัวเป็นชาวป่าชาวดอย แต่เพราะคนเมืองอยากเห็นอย่างนั้นพวกเขาก็เลยต้องแต่ง ไม่ใช่ว่าต้องการเงินทองจากนักท่องเที่ยวอะไรหรอก แต่ที่งอแซทาเช่นนั้นก็เพื่อความสะใจมากกว่า แม้ว่าดาวน้อยจะใจเย็นลงบ้าง แต่คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนยิ่งกว่ากลับเป็น จ่อไม้โป้ หรือ ไม้...ลูกชายของ ยะขิ่น...หมอผีประจาหมู่บ้าน ไม้แอบหลงรักดาวน้อยมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่กล้าบอกดาวน้อยเพราะกลัวจะผิดหวังนั่นเอง แต่อีกสาเหตุนึงที่ไม้ไม่ได้บอกความในใจให้ดาวน้อยฟัง คงเป็นเพราะ กระจง...หนุ่มประหลาดที่สุดในเผ่าซอเลี้ยะเพราะมีนิสัยตุ้งติ้งเหมือนผู้หญิง จนไม่รู้จะเรียกว่าเพื่อนสาวหรือเพื่อนชายของดาวน้อย ไม่เคยเปิดโอกาสให้ดาวน้อยกับไม้ได้อยู่กันตามลาพัง จนทาให้ไม้กับกระจงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาประจาเผ่าไปนั่นเอง แต่คนอย่างดาวน้อยไม่เคยยอมคนอยู่แล้ว ดาวน้อยคิดแก้เผ็ดกษิดินจึงแอบเข้าไปในรถของกษิดินในวันที่กษิดินกาลังจะกลับเพื่อเอาลูกดอกอาบขี้กิ้งกือไปทาให้กษิดินสลบเพื่อจะเอาตัวเขามาสั่งสอนให้สาสม แต่แล้วเจ้าป่าเจ้าเขาหรือโชคชะตากลั่นแกล้งไม่แน่ใจ เมื่อดาวน้อยดันทาลูกดอกจิ้มโดนตัวเอง ดาวน้อยตกใจเพราะเธอรู้ว่าฤทธิ์ของขี้กิ้งกือนั่นแรงแค่ไหน แล้วสิ่งที่ดาวน้อยเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก็คือกษิดินกาลังเดินมาที่รถก่อนที่ดาวน้อยจะหมดสติไป ขณะเดียวกันงอแซก็ฝันเห็น ฟ้าลั่น...ลูกชายอีกคน ซึ่งเป็นพี่ชายของดาวน้อยที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพราะดันไปเชื่อคาชักชวนของคนเมืองที่ว่า ชีวิตกรุงเทพ...ชีวิตที่ดีกว่า แม้ว่างอแซจะพยายามห้ามปรามเท่าไหร่แต่ฟ้าลั่นก็ไม่ฟังจนทาให้ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง จากวันนั้นที่ฟ้าลั่นจากไป เป็นเวลาเกือบสองปีที่งอแซและดาวน้อยไม่ได้ข่าวคราวของเขาอีกเลย แล้วงอแซยิ่งไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าดาวน้อยหายตัวไป จะว่าถูกเสือคาบไปกินก็ไม่น่าจะใช่ เพราะสัตว์ในพงไพรแถวนี้ล้วนเป็นเพื่อนกับ ดาวน้อยหรือว่าดาวน้อยจะตกน้า ก็ไม่น่าจะใช่อีกเพราะดาวน้อยว่ายน้าเก่งยิ่งกว่าปลาเสียอีก แล้วสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่งอแซคิดได้ว่าดาวน้อยหายไปไหนนั่นก็คือ ถูกพวกคนกรุงจับตัวไป หลังจากที่กษิดิน กลับถึงกรุงเทพฯ ก็ทาการชุบตัวอบสมุนไพรเพื่อล้างกลิ่นอุจจาระเป็ดภูเขาเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่กษิดินจะได้เดินตามความฝันของตัวเองซะที แล้วอย่างแรกที่เขาต้องทาก็คือการนัด ปริม...สาวสวยผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและกริยามารยาทชาติตระกูลไปด้วย ปริมได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีจาก ประไพศรี...ผู้มีบารมีและอิทธิพลในชุมชนเพราะประไพศรีเป็นเจ้าของบ้านเช่าที่เรียกได้ว่าแทบจะทั้งแถบ แถมยังเป็นเจ้าของร้านอาหารครัวประไพที่ไร้คู่แข่ง ไม่ใช่เพราะรสชาติดีเด่อะไร แต่ถ้าใครมาเปิดร้านข้าวขายแข่งกับประไพศรีในละแวกใกล้ๆ แม่จะขึ้นค่าเช่าให้อยู่กันไม่ได้เลยคอยดู แต่ที่สาคัญประไพศรีคือกระดูกชิ้นโตที่คอยขัดขวางไม่ให้กษิดินได้แต่งงานกับปริม จนกว่าเขาจะทาให้ฐานะของเขาเขยิบขึ้นมาทัดเทียมนั่นเอง แค่กระดูกชิ้นเดียวอย่างประไพศรีก็จะแย่แล้ว นี่ยังมี สุทัศน์...ชายหนุ่มเจ้าสาอาง เจ้าของธุรกิจรองเท้าแตะยางยาง ผู้เพียบพร้อมไปด้วยฐานะและชาติตระกูล เรียกได้ว่าเหมาะสมกับปริมทุกกระเบียดนิ้ว ติดเพียงอย่างเดียวที่ปริมไม่ได้ชอบเขานั่นเอง กษิดินตั้งใจจะเซอร์ไพร์ซปริมเพื่อให้ปริมกับคุณหญิงประทับใจ กษิดินเรียกนักข่าวและปริมไปที่รถเพราะเขาได้เตรียมลูกโป่งและการขอแต่งงานไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ทันทีที่กษิดินเปิดท้ายรถออก นอกจากลูกโป่งจะลอยขึ้นมาแล้ว ฝ่าเท้าของดาวน้อยก็พุ่งตรงเข้าเต็มหน้าของกษิดิน ปริม และคุณหญิง รวมถึงนักข่าวต่างตกใจว่าดาวน้อยเป็นใคร ดาวน้อยเองก็ตกใจเมื่อตัวเองตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ตัวเองไม่เคยรู้จักมาก่อน ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อดาวน้อยพุ่งกระโจนจะหาทางหนี แต่ไม่ว่าจะไปทางไหนดาวน้อยก็ไม่เห็นป่าที่ตัวเองเคยอยู่เลย มีแต่ตึกคอนกรีตล้อมรอบเธอทุกทิศทุกทาง ทันใดนั้นกษิดินก็สั่งให้รปภ.จับตัวดาวน้อยก่อนที่จะเอาตัวดาวน้อยเข้าไปในบริษัท ด้วยความพลิ้วของกษิดินจึงบอกกับทุกคนรวมถึงนักข่าวว่า เขาได้พบกับดาวน้อย...ผู้หญิงหลงสารวจในป่าลึกทางภาคเหนือ และเธอก็คือหนึ่งในผู้ประกวดในโครงการ ฟันนี่ เฟรชี่เกิร์ล หรือเรียกย่อๆว่า เอฟเอฟ (FF) เป็นรายการที่นาเอาหญิงสาวจากหลากหลายอาชีพเข้ามาประกวดเพื่อค้นหาผู้หญิงที่มีความสามารถเกินหญิง โดยผู้ชนะจะได้ทั้งเงิน ชื่อเสียงและได้โกอินเตอร์ แม้ว่ากษิดินจะใช้ความพลิ้วเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวไปได้ แต่ดูเหมือนทุกอย่างกลับยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่เมื่อมีข่าวดาวน้อยออกไปทาให้ผู้หญิงหลายคนเกิดเปลี่ยนใจไม่มาสมัคร ทาให้ทางช่องที่จะทาการถ่ายทอดโครงการเอฟเอฟเกิดเปลี่ยนใจที่จะไม่เอารายการเอฟเอฟ กษิดินพยายามขอร้องอ้อนวอนเพราะโครงการเอฟเอฟคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ถ้าจะล้มโครงการนี้ก็ฆ่าเขาซะยังจะดีกว่า ทางช่องจึงยื่นคาขาด ถ้าหากผู้สมัครยังไม่ครบในวันนี้จะตัดโครงการนี้ออกจากผังทันที นั่นเองจึงทาให้กษิดินถึงกับต้องมานั่งจุมปุ๊กอยู่ที่บ้านเพราะเขาจะไปหาผู้หญิงจากไหนมาอีกตั้งห้าคน แต่แล้วด้วยความฉลาดหลักแหลมหรือเพราะเข้าตาจนไม่ทราบได้ กษิดินเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วนั่นก็คือ บรรดาเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบเขานี่แหละที่จะเป็นผู้สมัครในโครงการเอฟเอฟ แล้วผู้สมัครเหล่านั้นก็คือ เฮียจู...เจ้าของร้านนวดฝีปากกล้า ผู้ที่อยากขยับฐานะไปเป็นหมอนวดส่วนตัวให้กับกษิดิน คนที่สองคือ นุ้ย...หมอนวดในร้านของเจ้จู พื้นเพเป็นคนใต้ ขี้อายผิดกับสาวชาวใต้คนอื่นๆ แล้วยังมี มะเหมี่ยว...หมอนวดที่มีฉายาว่า หวานซ่อนเปรี้ยวต้องมะเหมี่ยวซิคะ คู่กิ๊กจั๊กจี้หัวใจของเฮียจู ส่วนคนสุดท้ายที่เกือบไม่ได้ประกวด นั่นก็คือ การบูร...แม่ค้าขายส้มตาหน้าหวานที่ครองใจหนุ่มๆไปทั้งซอย แต่ยังไง๊ยังไง เธอก็ยังภักดีและรักแต่ เพชรฉาย...พระเอกลิเกเก่าที่ไม่รู้ว่ามีดีอะไร นอกจากจะเสียงดังโวยวายแล้วแถมยังชอบแซวสาวๆไปทั่ว กษิดินดีใจที่ทั้งสี่สาวยอมเข้าร่วมในโครงการเอฟเอฟ แต่ยังไงก็ยังขาดอีกหนึ่งคน ยอดชายจึงบอกกับกษิดินว่าก็ดาวน้อยที่อาศัยอยู่กับกษิดินไง เพราะกษิดินได้ออกข่าวไปแล้วด้วยว่าดาวน้อยคือหนึ่งในผู้สมัคร แต่กษิดินมีลางสังหรณ์ว่าถ้าให้ดาวน้อยสมัครจะต้องเกิดเรื่องยุ่งๆขึ้นมาอีกแน่ แต่ไหนๆก็ไหน กษิดินจึงรีบเสนอชื่อดาวน้อยเข้าไปอีกคนเพราะตอนนี้เขาหมดหนทางแล้วจริงๆ แล้วในที่สุดดาวน้อยก็ได้เป็นหนึ่งในผู้ประกวดโครงการเอฟเอฟไปโดยไม่ทันตั้งตัว โดยที่ดาวน้อยไม่รู้เลยว่าชะตาชีวิตของเธอกาลังจะพบกับความผกผันต่อจากนี้ ร่วมลุ้นไปกับดาวน้อยว่าเธอจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้หรือไม่ แล้วเธอจะได้พบกับพี่ชายที่หายตัวไปเมื่อไหร่ รวมถึงคนในเผ่าที่กาลังส่งคนมาตามหาเธอที่เมืองหลวง และที่สาคัญสาวชาวป่าจะกับหนุ่มเมืองกรุงจะรักกันได้อย่างไร เชิญร่วมลุ้นร่วมขากันได้ใน รักล้นดอย